รายงานใหม่พบว่าอุณหภูมิโลกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 3 องศาภายในปี 2050

ข่าวร้ายรับวันสิ่งแวดล้อมโลก รายงานใหม่ระบุว่ามีโอกาสสูงมากที่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะนำมาซึ่งจุดจบของอารยธรรมมนุษย์ภายใน 30 ปีข้างหน้า หากอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกยังดำเนินต่อไปเช่นนี้ รายงานชิ้นนี้จัดทำโดย Breakthrough National Centre for Climate Restoration ซึ่งเป็น Think-tank ด้านสิ่งแวดล้อมของออสเตรเลีย รายงานระบุว่าการคาดการณ์ของ IPCC นั้นต่ำเกินความเป็นจริงไปมาก และจากแนวโน้มในปัจจุบันเรากำลังมุ่งหน้าสู่โลกที่จะร้อนขึ้นถึง 3 องศาเซลเซียสภายในปี 2050 หรืออีก 30 ปีข้างหน้าเท่านั้น การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิ 3 องศา จะนำมาซึ่งการล่มสลายของระบบนิเวศสำคัญทั่วโลกโดยเฉพาะแนวปะการัง ป่าฝนเขตร้อนของอเมซอน และแผ่นน้ำแข็งในขั้วโลกเหนือ ผลกระทบต่อมนุษย์อาจรุนแรงขนาดที่คนนับพันล้านคนต้องกลายเป็นผู้ลี้ภัย เนื่องจากสภาพแวดล้อมไม่เหมาะที่จะอยู่อาศัยอีกต่อไป ทั้งจากการถูกน้ำท่วม หรือต้องพบกับสภาพร้อนจัดเกินไป ในขณะที่ผู้คนอีก 2 พันล้านคนต้องประสบกับสภาวะขาดแคลนน้ำดื่ม พื้นที่หลายภูมิภาคจะไม่เหมาะสมในการทำการเกษตรอีกต่อไป รายงานฉบับดังกล่าวระบุว่าทางเดียวที่จะสามารถรับมือกับหายนะที่กำลังจะมาถึงคือการระดมสรรพกำลังของทุกฝ่ายในระดับเดียวกับภาวะฉุกเฉินในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยมุ่งเปลี่ยนแปลงระบบการผลิตและอุตสาหกรรมให้ปราศจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจก "พวกผู้นำมักจะได้รับรายงานที่ประเมินสถานการณ์ต่ำเกินไป ถึงเวลาต้องยอมรับความจริง รายงานฉบับนี้ชี้ว่าเราอยู่ในสภาวะที่เสี่ยงมากๆ อารยธรรมและความอยู่รอดของมนุษย์กำลังถูกคุกคาม เราจำเป็นต้องรับมือกับสภาวะฉุกเฉินได้แล้ว" Chris Barrie อดีตรองผู้บัญชาการทหารเรือของออสเตรเลีย ซึ่งขณะนี้สังกัด Climate Change Instiute แห่ง Australian National University กล่าว ฉากหนังในเรื่อง The Day after Tomorrow เป็นภาพหนึ่งที่ติดตาคนทั่วโลก และไม่มีใครคิดว่ามันจะกลายเป็นเรื่องจริงขึ้นได้ แต่รายงานหลายๆฉบับเตือนว่า เรากำลังมุ่งหน้าไปสู่สถานการณ์แบบนั้นแล้ว ตอนนี้คือช่วงเวลาที่สำคัญมากในการที่จะลงมือปกป้องโลก เพื่อปกป้องอนาคตของตัวเราเอง อ้างอิง New Report Suggests ‘High Likelihood of Human Civilization Coming to an End’ in 2050

#globalwarming #climatechange