คลื่นความร้อนสูงเป็นประวัติการณ์อาจทำให้แนวปะการัง Great Barrier Reef ฟอกขาวอีกครั้ง

อาการน่าเป็นห่วงอีกแล้วสำหรับแนวปะการังที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างเกรทแบริเอร์รีฟ (Great Barrier Reef) เมื่ออุณหภูมิสูงสุดเดือนพฤศจิกายนที่เมืองแคนส์ (Cairns) ทะลุไปถึง 42.6 C ทำลายสถิติสูงสุดเมื่อกว่า 100 ปีที่แล้วถึง 5.4 C

คลื่นความร้อนและอากาศสุดขั้วเช่นนี้มีโอกาสส่งผลต่ออุณหภูมิของน้ำทะเลเช่นกัน และนักวิทยาศาสตร์คาดว่ามีโอกาสสูงที่จะเกิดเหตุการณ์ปะการังฟอกขาวขึ้นอีกในต้นปีหน้า

อากาศที่ร้อนผิดปกติยังทำให้เกิดไฟป่ากว่า 130 แห่ง "มันไม่ใช่ไฟป่าอย่างที่รัฐควีนส์แลนด์เคยเจอมาก่อน คลื่นความร้อนและไฟป่าแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน" ผู้ว่าการรัฐ Annastacia Palaszczuk บอกใน Twitter

ทางใต้ของรัฐยังประสบกับพายุฝุ่นรุนแรง ในขณะที่ทางตอนเหนือฝูงค้างคาวแม่ไก่นับพันเสียชีวิตเพราะอุณหภูมิที่สูงเกินไป

Terry Hughes นักวิทยาศาสตร์ด้านปะการังชื่อดังแห่งมหาวิทยาลัยเจมส์คุ้ก (James Cook) กล่าวว่า คลื่นความร้อนที่กำลังเกิดขึ้นน่ากลัวมากๆ และมีโอกาสที่แนวปะการังเกรทแบริเออร์รีฟจะล้มตายเป็นจำนวนมากอีกครั้งต้นปีหน้า ตอนนี้เขาและทีมงานได้เตรียมพร้อมออกสำรวจทันทีที่ได้รับรายงานเกี่ยวกับปะการังฟอกขาว

“เรายังอยู่ในช่วงเฝ้าระวัง แน่นอนว่ามีโอกาสเกิดฟอกขาวได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในเดือนมกรา-กุมภาที่จะถึง ว่าจะทำให้เกิดเหตุการณ์ฟอกขาวครั้งใหญ่เหมือนในปี 2016 หรือ 2017 หรือไม่"​

ปี 2016 เกิดปะการังฟอกขาวครั้งใหญ่ที่สุดทางตอนเหนือสุดที่ทำให้ปะการังตายไปอย่างน้อย 30% ปี 2017 เกิดปะการังฟอกขาวอย่างรุนแรงเช่นกันแต่เป็นบริเวณตอนกลางที่ทำให้ปะการังอีก 20% ตายลง หมายความว่าเหตุการณ์ปะการังฟอกขาวสองปีทำให้ปะการังเกรทแบริเออร์รีฟตายไปแล้วราวครึ่งหนึ่ง

เป็นที่น่าจับตาว่าปี 2019 จะเป็นอย่างไรต่อไป นี่คือหลักฐานที่สำคัญที่สุดของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และแนวปะการังเป็นระบบนิเวศที่มีความเสี่ยงที่จะสูญพันธุ์เนื่องจากสภาวะโลกร้อนก่อนใคร

Reference:

Great Barrier Reef: Record heatwave may cause another coral bleaching event: The Guardian 28 November 2018

#GreatBarrierReef #Coralbleaching #coralreef #Australia