ยุโรปและอเมริกาเตรียมออกกฎหมาย"สิทธิในการซ่อม" สินค้าชำรุดต้องซ่อมได้

สังเกตไหมว่าสมัยนี้เวลาสินค้าชำรุด ซึ่งมักจะเกิดขึ้นตอนที่หมดประกัน มักจะซ่อมได้ยากมาก เพราะมีร้านรับซ่อมน้อยแถมบ่อยครั้งราคายังแพงกว่าซื้อใหม่ สินค้าใหม่ๆจึงมีอายุการใช้งานสั้นลงๆ และกลายเป็นขยะรวดเร็วขึ้น การต้องซื้อสินค้าใหม่ตลอดเวลาเร่งให้เกิดการใช้ทรัพยากรและพลังงานเกินความจำเป็น เร่งให้เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามมา

ตอนนี้ในยุโรปและอเมริกามีความพยายามผลักดันออกกฎหมาย "Right to Repair" บังคับให้ผู้ผลิต ผลิตสินค้าที่มีอายุการใช้งานนานขึ้น และสามารถที่จะซ่อมแซมได้ง่ายขึ้นเมื่อชำรุด

ในยุโรปตอนนี้พยายามมุ่งไปที่อุปกรณ์ให้แสงสว่าง โทรทัศน์ และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในบ้าน โดยมีนโยบายและคำแนะนำสำหรับ การออกแบบท่ีเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (EU Ecodesign) ส่วนในสหรัฐอเมริกามี 18 รัฐที่กำลังพัฒนากฎหมายในลักษณะเดียวกัน ท่ามกลางความไม่พอใจที่สินค้าสมัยใหม่แกะออกเป็นส่วนๆไม่ได้ ซึ่งไม่อนุญาตให้ซ่อมหรือเปลี่ยนชิ้นส่วน รวมไปถึงโทรศัพท์มือถือ และคอมพิวเตอร์​

นโยบายดังกล่าวถูกผลักดันขึ้นมาเพราะการสำรวจข้อมูลล่าสุดที่พบว่า

• อุปกรณ์เครื่องใช้ในบ้านที่เสียภายใน 5 ปีเพิ่มขึ้น 3.5% to 8.3%. ภายใน 8 ปี (2004 ถึง 2012)

• 10% ของเครื่องซักผ้าเก่าที่กลายเป็นขยะมีอายุการใช้งานไม่ถึง 5 ปี

• เครื่องซักผ้าที่มีอายุการใช้งานยาวนาน (20 ปี) จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากถึง 1.1 ตัน เมื่อเทียบกับเครื่องซักผ้าอายุสั้น

• โคมไฟหลายยี่ห้อในยุโรปมาพร้อมกับหลอดไฟที่ไม่สามารถเปลี่ยนได้ เมื่อหลอดไฟเสียจึงต้องทิ้งไปทั้งโคมไฟ

การรณรงค์ให้สินค้าต่างๆ สามารถซ่อมได้ เรียกร้องให้อุปกรณ์ที่ผลิตขึ้นมาสามารถแยกชิ้นส่วนและเปลี่ยนอะไหล่ได้ โดยคำแนะนำจากผู้ผลิต แต่ผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บางรายให้ความเห็นว่า "เราเข้าใจถึงความตั้งใจในการลดการใช้พลังงานและใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพใน Ecodesign แต่ข้อจำกัดบางอย่างมันเป็นไปไม่ได้ และไม่ทำให้เกิดประโยชน์มากนัก ข้อเสนอบางอย่างจะทำให้มาตรฐานสินค้าต่ำลง และไม่สามารถปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาได้"

นาง Thérèse Coffey รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมของประเทศอังกฤษ กล่าวว่า "ประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากรคือกุญแจสำคัญในการปรับปรุงประสิทธิผลในการผลิต และทำให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า เราจึงสนับสนุนมาตรการต่างใน นโยบาย Ecodesign และส่งเสริมให้อุปกรณ์ต่างๆสามารถซ่อมแซมและนำมาใช้ใหม่ได้"

Reference:

Climate change: 'Right to repair' gathers force. BBC News 9 Jan 2019