อังกฤษเตรียมขึ้นค่าถุงพลาสติกสองเท่าและขยายผลไปยังร้านค้าทุกประเภท

BBC News: รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมของประเทศอังกฤษเปิดเผยว่าจะมีการขึ้นค่าถุงพลาสติกจาก 5 เพนนี (ราว 2 บาท) เป็น 10 เพนนี (4 บาท) และขยายผลไปยังร้านค้าทุกประเภทภายในหนึ่งปีข้างหน้า หวังลดการใช้ถุงพลาสติกลงอีก จากที่ลดไปได้แล้วถึง 85% หลังมีมาตรการเก็บเงินค่าถุง

โดยปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนหารือภายในรัฐบาลเพื่อลดการใช้พลาสติกของผู้บริโภคลงอีก และคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ภายในมกราคมปี 2020 หรืออีกหนึ่งปีข้างหน้า

มาตรการใหม่นี้จะขยายผลไปยังร้านค้าปลีกขนาดเล็กที่ได้รับการยกเว้นการเก็บค่าถุงพลาสติกถุงละ 2 บาทในปัจจุบัน ซึ่งทางการระบุว่าในส่วนนี้มีการใช้ถุงพลาสติกมากถึง 3.6 พันล้านถุงต่อปี

โรงเรียนเป็นอีกกลุ่มเป้าหมายสำคัญในการลดการใช้พลาสติกของอังกฤษ ดาเมียน เฮด รัฐมนตรีศึกษาธิการ พยายามสนับสนุนให้ผู้บริหารโรงเรียนเปลี่ยนพลาสติกประเภทใช้แล้วทิ้งเช่น หลอดพลาสติก ขวดพลาสติก และบรรจุภัณฑ์อาหารที่ใช้พลาสติก เป็นวัสดุทางเลือกที่มีความยั่งยืนกว่าภายในปี 2022

เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เทเรซาร์ เมย์ นายกรัฐมนตรี ให้สัญญาว่าจะมีขั้นตอนการประชาพิจารณ์ในการเปลี่ยนแปลงการเก็บค่าถุงพลาสติก ด้าน ไมเคิล โกฟ รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า "เราต้องการปกป้องสิ่งแวดล้อมของเรายิ่งขึ้น และการประกาศในวันนี้จะยิ่งเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม และต่อยอดความสำเร็จจากมาตรการเก็บเงินค่าถุงที่ได้นำมาใช้แล้ว"​

การบังคับให้ร้านค้าปลีกที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 250 คนขึ้นไปเริ่มเก็บเงินค่าถุงพลาสติกในราคาถุง 2 บาทเมื่อปี 2015 ทำให้เกิดการลดใช้ถุงพลาสติกได้มากถึง 1.5 หมื่นล้านถุง หรือทำให้ปริมาณการใช้ถุงพลาสติกต่อปีลดลงไปกว่า 85%

นอกจากนี้ยังมีสมาคมร้านค้าปลีกขนาดเล็กที่มีสมาชิกราว 4 หมื่นร้านได้เข้าร่วมโครงการดังกล่าวโดยสมัครใจ ซึ่งมาตรการใหม่นี้จะมีผลครอบคลุมร้านค้าขนาดเล็กทั้งหมดกว่า 2 แสนร้าน

ประเทศอังกฤษใช้เวลาเตรียมการค่อนข้างนานกว่าจะมีการเก็บภาษีถุงพลาสติก แต่ภายหลังการนำมาตรการดังกล่าวมาใช้ก็พิสูจน์อย่างชัดเจนว่า การเก็บเงินค่าถุงช่วยเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ลูกค้าส่วนใหญ่ไม่พอใจที่ต้องเสียเงินเพิ่มถุงละ 2 บาท และการซื้อของเข้าบ้านแต่ละครั้งต้องใช้หลายถุงทำให้ต้องเสียเงินเพิ่มถึง 10-20 บาทต่อครั้ง คนส่วนใหญ่ไม่อยากเสียเงินเพิ่มและหันมาพกพาถุงผ้าหรือถุงที่ใช้ซ้ำได้แทนจนเป็นนิสัย

การเก็บเงินค่าถุงพลาสติกในร้านสะดวกซื้อขนาดเล็กอาจไม่ได้ผลเท่า เพราะลูกค้าอาจจะซื้อของจำนวนไม่มากและอาจพร้อมจ่ายเงินเพื่อความสบาย

ในสก็อตแลนด์ เวลส์​และไอร์แลนด์เหนือ ได้เก็บเงินค่าถุงในร้านค้าทุกขนาดมานานแล้ว โดยกำหนดให้เก็บเงินขั้นต่ำถุงละประมาณ 2 บาทเช่นกัน

ลอรา ฟอสเตอร์ หัวหน้าโครงการ Clean Seas ของ Marine Conservation Society ในอังกฤษ กล่าวว่า "เราสามารถวัดผลของกฎหมายนี้ได้อย่างชัดเจน เพราะตั้งแต่มีการเก็บเงินค่าถุงพลาสติก จำนวนพลาสติกที่พบบนหาดก็ลดลง...ซึ่งเราได้ศึกษาเปรียบเทียบปริมาณขยะนอกชายฝั่งด้วยเช่นกัน และเห็นผลการลดลงของถุงพลาสติกในสิ่งแวดล้อมนอกชายฝั่งเหมือนกัน"​

นอกจากนี้เงินรายได้ที่ร้านค้าเก็บยังได้ถูกนำไปบริจาคเพื่อกิจการสาธารณะ เฉพาะปี 2017-18 สามารถเก็บเงินได้กว่า 2 พันล้านบาท (51 ล้านปอนด์)​ โดยเทสโก​โลตัส เป็นซุปเปอร์มาร์เก็ตที่บริจาคเงินมากที่สุดเกือบ 500 ล้านบาท (>12 ล้านปอนด์)

สมาคมร้านสะดวกซื้อ (Association of Convenience Store) กล่าวว่า พวกเขาสนับสนุนแผนการของกระทรวงสิ่งแวดล้อม และบอกว่า ราวครึ่งหนึ่งของร้านสะดวกซื้อขนาดเล็กได้เริ่มเก็บเงินค่าถุงพลาสติกแล้ว

เจมส์ โลว์แมน ประธานสมาคมร้านสะดวกซื้อ กล่าวว่า "มาตรการนี้พิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพมากในการลดขยะ ในขณะเดียวกันก็ยังได้ระดมทุนเพื่อใช้ในงานสิ่งแวดล้อม และกิจการสาธารณะทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ

Plastic bag fee 'to double to 10p' and include every shop

BBC News 27 Dec 2018

#singleuseplastic #plasticbag #plasticlevy #UK